2009-05-25

Barcampbkk3

ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้เข้าร่วมงาน barcampbkk หลังจากที่ครั้งที่แล้วเข้าร่วมงาน barcampbkk2 แบบงงๆ
ความแตกต่างของ งาน barcampbkk3 เมื่อเที่ยบกับ barcampbkk2 ก็คือ เป็นงานที่จัดสองวันแต่เริ่มงานครั้งเดียวแล้วยาวข้ามคืนไปจบงานตอนเย็นอีกวันเลยที่เดียว ต่างจาก barcambkk2 ที่จะสิ้นสุดงานวันแรกด้วยการรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน แล้วเจอกันใหม่วันถัดไป
ส่วนกิจกรรมในช่วงกลางคืนก็จะมีหลากหลาย ทั้งที่เป็นการจับกลุ่มคุยกันระหว่างคนคอเดียวกัน การแข่งขันระหว่าง CMS ค่ายหลัก 3 ค่าย และกิจกรรมบันเทิงเช่นดลตรีสดและการเล่นเกมส์ ซึ่งนับได้ว่าครบเครื่องที่เดียว ทำให้ barcampbkk3 ทิ้งห่างงานสัมนาวิชาการ รูปแบบอื่นๆ ที่แสนจะน่าเบื่อ ไปอีกหลายขุมทีเดียว

ส่วนหัวข้อในงานครั้งนี้ก็ยังคง Concept เดิมที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งหัวข้อที่เป็น IT และ none-IT ซึ่งหัวข้อในกลุ่ม none-IT ก็เรียกผู้เข้าร่วมและสีสันได้มากทีเดียว ในครั้งนี้จริงๆ จะเตรียมเรื่องที่จะพูดอีกประเภทหนึ่งไป .. แต่เตรียมตัวไม่ทันจึงกลับลำ เปลี่ยนเป็นหัวข้อ none-IT แทน แต่ก็ไม่มีจำนวนผู้ vote พอที่จะได้ขึ้น เหมือนกับครั้งที่แล้ว ที่มีผู้ Vote น้อยมาก ซึ่งคงจะมากจาก หัวข้อกระทู้ ที่ยากที่ผู้ vote จะเข้าใจ ... คราวหน้าสงสัยต้องหาหัวข้อที่ ผู้ Vote เข้าใจได้ง่ายกว่านี้หน่อยซะแล้ว...

ซึ่งโดยรวมๆแล้วงานครั้งนี้ถือว่าจัดได้ดีที่เดียว โดยเฉพาะผู้ฟังเริ่มเข้าถึงความเป็น barcamp มากขึ้น สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นและเข้าร่วมกับเจ้าของกระทู้ได้มากขึ้น

งานในครั้งนี้ผมมีติดใจอยู่อย่างเดียว ก็คือ ระบบ Wireless Lan ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้มีเครื่อง Computer หลายๆเครื่อง ไม่สามารถใช้ระบบ Wireless Lan ได้ สร้างปัญหาอย่างรุนแรงให้กับหัวข้อบางหัวข้อที่ต้องติดต่อกับ Internet ซึ่งก็มีผุ้ร่วมงานหลายๆท่าน หนึไปใช้ Air-Card แทน

ขอบคุณทุกๆท่านไม่ว่าจะเป็น เจ้าของสถานที่ ทีมผู้จัดและผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ที่ทำให้เกิดงานดีดีแบบนี้ขึ้นมาอีกครั้งครับ

2009-05-12

Dive Safety

วันนี้ ได้รับข่าวที่ไม่ดีจากวงการดำน้ำนั้คือข่าวการหายไปของนักดำน้ำ 2 คน ที่เป็น ครู 1 ท่าน นักเรียนอีกหนึ่งท่าน ซึ่งขณะที่ผมเขียน อยู่นี้ ยังไม่ทราบชะตากรรมทั้งคู่ ซึ่งบริเวณ ที่ทั้งคู่หายไปนั้น ก็เป็น บริเวณที่ผมได้เคยไปดำน้ำอยู่บ่อยมาก จนต้องย้อนกลับไปนึกถึงตัวเอง

อะไรที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่เริ่มดำน้ำมา

โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ขี้กลัวเอามากๆ และมักจะใส่ใจในกฏต่างๆอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใดๆ เพราะทุกกิจกรรม มีโอกาศที่จะเกิดเรื่องไม่คลาดฝันได้ทั้งนั้น แต่สำหรับการดำน้ำแล้ว เรื่องไม่คาดฝันถ้าเป็นเรื่องร้าย มันจะรุนแรงในระดับที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย สถาบันเกี่ยวกับการดำน้ำจึงได้สร้างระเบียบสร้างแบบฝึกหัดต่างๆมามากมายเพื่อป้องกันนักดำน้ำให้ดำน้ำได้อย่างปลอดภัย

การที่ผมได้มีโอกาศไปดำน้ำเป็นจำนวนมาก ทั้งในระดับ Drive Leader ดำน้ำกู้ภัย หรือการดำน้ำที่นอกเหนือการดำน้ำเพื่อการพักผ่อน ทำให้ผมได้เข้าไปเฉียดและข้ามเส้นความปลอดภัยไปหลายครั้ง บางครั้งรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกว่าเป็นอันตราย บางครั้งรู้สึกกลัวบ้าง บ้างครั้งก็รู้สึกกลัวมาก

ครั้งแรกๆ ที่ผมรู้สึกกลัว กลับเป็นการดำน้ำปกติธรรมดาๆ ในระดับความลึกแค่ ประมาณ 20 เมตร เป็นการดำ้น้ำ ไดฟ์ต้นๆ ของผม ซึ่งแน่นอนว่า นักดำน้ำที่ ยังประสบการณ์ยังน้อยย่อมมีวันนี้กันทุกคน การดำน้ำในไดฟ์ั้นั้น เป็นการดำน้ำบนแนวประการังรอบเกาะเล็กๆ ที่เรือไม่สามารถ เข้าไปอยู่เหนือแนวดำน้ำได้ เรือได้จอดทอดสมออยู่บนพื้นทราย ห่างจากแนวประการังออกไป ทำให้เราต้องลงตามสายสมอและว่ายเข้าสู่แนวประการัง ซึ่งในวันนั้น น้ำมีกระแสเล็กน้อย Dive Leader แนะนำให้ว่ายชิดกับพื้นทรายให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้อยู่กลางกระแสน้ำ และว่ายเข้าสู่แนวประการังทันที่ ซึ่งกระแสน้ำจะเบากว่า ผลก็คือผมพยายามออกแรงมากเกินไปเพื่อเข้าสู่แนวประการัง ทำให้ต้องหายใจถี่เกินไป ไม่สามารถรับอากาศและคลายคาร์บอนไดอ๊อกไซต์ ได้อย่างเป็นระบบ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ผมกำลังจะเป็นลม ขณะที่อยู่ใต้น้ำ 20 เมตร... ผมจะทำอย่างไรดี ผมควรจะขึ้นสู่ผิวน้ำหรือไม่ หรือผมจะปล่อยให้ตัวเองหน้ามืดเป็นลมอยู่ตรงนี้ แล้วต่อไปจะเป็นยังไง .. แล้วสิ่งหนึ่งก็แว๊บเข้ามา จงหายใจให้ลึกและช้า แน่นอนครับสิ่งนี้ขัดกับความรู้สึกของคนทั่วๆไปที่กำลังเหนื่อยแต่เป็นสิ่งที่นักดำน้ำต้องบังคับตัวเองและทำให้ได้เมื่อตัวเองเหนื่อย

เป็นการพิสูจน์ทราบในส่ิงที่สถาบันดำ้น้ำได้สอนเราไว้.. จงหายใช้ให้ลึกและช้า แต่อย่ากลั้นหายใจ

ผมเริ่มสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนหลายๆอย่างทำงานเป็นระบบถามหลักที่สถาบันดำน้ำสอบเราไว้ และแล้วก็มาถึงเรื่อง ที่หน้ากลัวมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่สถาบันสอนดำน้ำจะนำเสนอเราได้ นั้นคือ Panic Diver

ตอนเด็กๆ ผมเคยจมน้ำ ครั้งนั้นเป็นการวิ่งโดดน้ำเล่นในหมู่เด็กๆด้วยกันหลายๆมีทั้งเด็กโตป.5 ป.ุ6 และเด็กที่ยังไม่เข้าป.หนึ่ง โดยมี เด็กสองคน ที่ว่ายน้ำไม่เป็น ณ เสี้ยวเวลาวินาทีนั้น .. ขณะที่จมลงไป 2 คน ผมยังสามารถรับรู้สิ่งต่างๆมากมายๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงคน ที่อยู่ระแวกนั้น ต่ำแหน่งของเพื่อนที่โดดจมไปด้วยกัน และทำให้รู้ว่าผมสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะกดหรือเหยียบเพื่อนข้างๆเพื่อที่จะตะกายสู่ผิวน้ำ

นักดำน้ำระดับ ตั้งแต่ Rescue Diver ขึ้นมาจึงถูกฝึกให้รู้จักการรับมือกับ Panic Diver ซึ่งสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเตะขาฟาดมือ กดหรือกอดสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว เชื่อได้เลยว่า ถ้าคุณโดนคนที่กำลัง Panic กอดได้คุณมีโอกาศน้อยมากที่จะหลุดออกมาได้ถ้าไม่ได้ถูกฝึกมาอย่างดีหรือมีกำลังมหาศาล

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การที่นักดำน้ำเกิดการ Panic ขณะอยู่ใต้ทะเล เพราะคุณไม่สามารถใช้เสียงคุยกับเขาเพื่อเรียกสติได้ คุณจะต้องไม่ให้เขาขึ้นสู่ผิวน้ำเร็วเกินไป หรือว่ายไปไหนต่อไหนซึงอาจพัดหลงโดนกระแสน้ำพัดหรือโดนเรือเฉียวได้ และบางที่เขาอาจะปัด Mask หรือ Octopus คุณหลุดเอาง่ายๆ เลยที่เดียว

จริงๆแล้ว ผมไม่เคยเจอกับ นักดำน้ำที่ Panic ใต้ทะเลอย่างรุนแรงหรอกครับ... แค่ กำลังดำลงระดับความลึกไม่ถึง 2 เมตร ก็ทำ Mask ผมหลุด ปัดสาย Octopus จน Mount Piece เกือบขาดแล้ว

2009-02-24

I'm The Oracle










You Scored as Oracle

You're the oracle.








Oracle

100%






The Merovingian

63%






Agent Smith

63%






Neo

63%






Trinity

63%






Morpheus

44%






Niobe

38%






Seraph

38%




2009-02-23

ไกลเท่าเดิม


ปลาปักเป้ากล่องสีเหลืองลายจุด Yellow Spot Box Fish เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่ดูน่ารักมา แต่ก็เป็นปลาที่สามารถถ่ายรูปมุมสวยๆได้ยาก (รูปนี้เพื่อนผมเป็นคนถ่าย) เพราะ Box Fish ระมัดระวังตัวมาก เจ้าตัวนี้ตัวเล็กแต่เร็ว สามารถว่ายน้ำหายไปในพริบตา แต่ก็มีลักษณะอยากรู้อยากเห็นอยู่ในตัว มันมักจะมองมายังสิ่งแปลกปลอมอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่แน่ใจก็จะค่อยๆว่ายถอยห่างออกไปช้า แต่ก็ยังมองมายังสิ่งแปลกปลอมอยู่ดี .. และเมื่อสิ่งแปลกปลอมนั้น ถอดห่างออกไป เจ้าตัวนี้ก็จะค่อยๆ ว่ายขยับๆเข้ามาก และปัญหาคือ.. มันมักจะทิ้งระยะห่างเกินกว่าที่จะถ่ายภาพสวยๆได้ หลายๆครั้งที่ผมพยายามจะถ่ายภาพเจ้าตัวนี้ มักจะกลับมาด้วยความผิดหวัง..

"แม้ครั้งใด ที่ฉันต้องการใกล้เธอ

แต่เธอจะถอยไป ให้ไกล

ออกไปให้ไกล ไกลเท่าเดิม"

Back to Ubuntu

เมื่อซักสองวันก่อน เกิดมือไม่สุข ไปเอา Mint 6 ไปเปลี่ยน apt source เป็น Ubuntu Jaunty แล้วกด Update ดู เพราะ Mint 6 นั้น Based อยู่บน Ubuntu Intrepid อยู่แล้ว ถ้า Up ขึ้น Jaunty ก็นาพอลุ้น และแล้วก็เป็นไปตามคาด เละ จนต้อง ลงใหม่ทั้งระบบ ในที่สุดก็เลือก Ubuntu Intrepid ตัวหลักแทนที่จะเป็น Mint 6

Mint 6 นั้นก็มีข้อดูอยู่หลายๆอย่าง และใช้งานง่าย แต่สำหรับผมที่ชอบแต่งโน้นทดลองนี้อยู่เรื่อยๆ OS ที่ดูพื้นๆ อย่าง Ubuntu น่าจะใช้งานได้สะดวกปลอดภัยและเล่นอะไรๆ ได้มากกว่าเยอะ

Extreme

จริงๆผมเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดด้านกีฬาซักเท่าไหร่นัก เล่นกีฬาอะไรไม่เคยทำได้ดีเลย แล้วออกจะเป็นคนขี้กลัวด้วย ส่วนกิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมที่อยากลองมานาน แต่ไม่มีโอกาศได้ลอง อีกทั้งยังกล้าๆ กลัว ว่ากำลังเราจะพอหรือเปล่า ถ้าขึ้นไปหน่อยเดียวแล้วจอดนี้อายเขาตายเลย .. แต่ก็ตามแนวทาง Yes Man (ตอนนั้นเรื่องนี้กำลังจะเข้าฉาย) ต้อง say yes ซะหน่อย

ก็ยอมรับครับว่าเกือบจะไม่รอดตั้งแต่สองเมตรแรก อีกทั้งที่นั้นอากาศเย็น มือและแขนของคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย เริ่มเย็นและชาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพราะช่วงสุดท้าย ที่ร่างกายเริ่มจะเติมที่ แต่ต้องกระโจนขึ้นผาที่ยื่นออกมา ก็ต้องทุ่มครับ เคยไปยืนดูเขาปีนตามงานท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ เขาบอกไม่ต้องกลัว ถ้าพลาดเชือกยังเอาอยู่ ในที่สุดก็ไปถึงจุดหมายจนได้

เสียดาย.. ตอนขาลง เขาให้ปล่อยตัวลง โดยให้ staff เป็นคนปล่อยเชือก รู้สึกเขาจะกะระยะผิดไปหน่อย ผมถึงพื้นแรงพอสมควรจนเพื่อนๆ ตกใจเลยล่ะ ดีที่ไม่เป็นอะไร
Posted by Picasa

My Coffee Mill

กาแฟ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีคนส่นใจเป็นจำนวนมาก และมากขึ้นมากขึ้นเรืีอยๆ ทุกวันนี้ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เราก็สามารถที่จะหากาแฟดืมได้ไม่ยากนัก

ผมติดใจและสนใจกาแฟมาพักใหญ่ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติของของกาแฟเท่านั้น ยังสนใจถึงเรื่องราว ต่างๆของกาแฟและวิธีการชงกาแฟอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเท่าได้นัก

ผมเริ่มขยับจากกาแฟกึ่งสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามร้านค่าทั่วไปที่ใช้เพียงแก้วกาแฟและน้ำร้อน มาสู่กาแฟสด ตามแบบตะวันตกที่มีขั้นตอนการชงที่ยุงยาก โดยเริ่มจากการใช้ถ้วยกรองกาแฟแบบ 1 แก้ว มาสู่ Drop Coffee Maker ราคาประหยัดไปสู่ French Press ที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงนักแต่ได้กลิ่นที่หอมกรุ่น (เสียอย่างเดียวกาแฟมักจะเย็นก่อนที่จะได้ดืม) แล้วก็ไปหยุดที่ เครื่องชง Espesso รุ่นราคาประหยัด ที่เป็นรูปแบบการชงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

อุปกรณ์การชงกาแฟของผม ก็ผุพังศุนย์หายไปตามการเวลา ซึ่งก็ต้องคนหามาสัปเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันนี้ เป็นวันที่ผมมีโอกาศได้ไปงาน Thailand Coffee Tea & Drink 2009 ซึ่งผมตั้งใจว่าจะไปหาอุปกรณ์อะไรมาเพิ่มทดแทนของเก่าๆที่หายไป ซึ่งจริงๆก็มีในใจอยู่แล้ว ว่าอยากได้อะไร แต่ไม่แน่ใจว่าจะหาที่ถูกใจได้หรือเปล่า และแล้วผมก็เจอสิ่งที่อยากได้ และไม่เคยมีมาก่อน นั้นคือ Coffee Mill หรือเครื่องบดกาแฟ ซึ่งการชงกาแฟของผมที่ผ่านมานั้น ผมมักจะใช้กาแฟที่บดเป็นผงเอาไว้แล้ว ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและสามารถใช้งานได้ทันที่ แต่กาแฟนั้นจะมีการสูญเสียกลิ่นรสชาติไปในทุกๆขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการคั่ว การบด การชง การแยกกาก การปรุง ร้านกาแฟหรือผู้ชื่นชอบกาแฟจึงนิยมที่จะทำการคั่วและบดกาแฟเมื่อถึงเวลาที่จะชงเท่านั้น และร้านขายเมล็ดกาแฟบางแห่งขายกาแฟเฉพาะที่คั่วแล้วแต่ยังไม่บดเท่านั้น เพื่อไม่ให้กาแฟที่นำไปชงได้กลิ่นรสที่สมบูรณ์ ที่สุด
Posted by Picasa